กุฏิพระสงฆ์สูง 2 ชั้น วัดท่าแหน
สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2495 อายุไขได้ 68 ปี
เป็นอาคารกุฏิพระสงฆ์ที่มีรูปลักษณ์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองลำปาง
ตั้งอยู่ ณ บ้านท่าแหน ตำบลแม่ทะ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง
ประวัติของวัด
วัดท่าแหน...เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่ชุมชนมายาวนาน มีครูบาคันธรส กนธยโส เป็นผู้ริเริ่มก่อสร้างเมื่อวันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2450 โดยมีหลวงพ่อพระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม) เกจิอาจารย์ชื่อดังของลำปางเป็นผู้บูรณะ
วัดท่าแหน...ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2505 ภายในวิหารเก่ามีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือชั้นครูปวน สุวรรณสิงห์ (ป. สุวรรณสิงห์) ได้วาดภาพจิตกรรมบริเวณเหนือหน้าต่างและประตูในวิหารทั้งเก่าและใหม่
ประวัติของหลวงพ่อเมือง อุตฺตโม หรือ หลวงพ่อพระครูอุดมเวทวรคุณ สายเหนียวพุทธคุณแห่งเมืองลำปาง
" พระผู้มีอตีตังสญาณ ผู้หยั่งรู้ "
พระครูอุดมเวทวรคุณ (เดิมชื่อ เมือง ใจทาหลี) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2435 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรง เป็นบุตรคนโตของ นายดวงแก้ว นางต่อม ใจทาหลี ณ บ้านเลขที่ 15 บ้านท่าแหน ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง
มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน คือ
1. พระครูอุดมเวทวรคุณ ( หลวงพ่อเมือง ใจทาหลี )
2. นายมูล ใจทาหลี
3. นางเกี๋ยง โยธา
4. นายซุน ใจทาหลี
5. นางคำใส ฟูชุม
หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนกับพระอาจารย์คันธรส ที่วัดท่าแหน โดยเรียนอักขระภาษาพื้นเมือง จนจบหลักสูตร จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2449 ณ วัดท่าแหน โดยมีพระอาจารย์คันธวงศ์ วัดสันดอน ต.ดอนไฟ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อบรรพชาเป็นสามเณร ก็ได้เล่าเรียนตำรับตำราต่างๆ และเมื่ออายุครบบวช จึงได้ทำการอุปสมบท ในวันที่ 21 มิถุนายน 2455 ณ วัดท่าแหน โดยมีพระคันธวงศ์เป็นผู้อุปชฌาย์ พระคันธรส เป็นพระกรรมวาจารย์ พระปิ่นไชย วัดบ้านหลวง เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้ปฏิบัติศาสนกิจอยู่วัดท่าแหน ก็ได้มีความสนใจใคร่เรียนรู้วิธีปฏิบัติสมถะ วิปัสสนากัมมัฏฐานจึงได้ค้นคว้าจากตำราเก่าแก่ และทดลองปฏิบัติเรื่อยมา โดยไปศึกษาค้นคว้านอกสำนักบ้าง ท่านเสาะแสวงหาหนทางวิธีวิปัสสนากัมมัฏฐานไปทั่วทุกแห่งหน เป็นพระชอบอยู่ป่าช้าเจริญสมถะและวิปัสสนากัมมัฏฐานเพ่งกสิณอยู่เป็นนิจ
กระทั่งวันหนึ่ง หลวงพ่อเมืองได้ไปพบคำภีร์โบราณ ในตู้พระไตรปิฎกของ วัดบ้านหลุก ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง จึงขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดบ้านหลุก นำเอาตำราวิปัสสนากัมมัฏฐานนี้กลับไปเพื่อศึกษาและปฏิบัติ โดยศึกษานานถึง 6 ปี จึงสามารถบรรลุทางจิตให้เป็นสมาธิได้ สามารถรวมใจเป็นดวงเดียว ซึ่งเรียกกันว่า บริกรรมนั่งทางในสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่คนธรรมดาสามัญมองไม่เห็นได้ สามารถทำนายทายทักให้ถูกต้องแม่นยำ แม้กระทั่ง หลวงพ่อเกษม เขมโก ยังได้เอ่ยกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อพระองค์ทรงตรัสถามหลวงพ่อเกษมว่า "ชาติที่แล้วพระองค์ทรงเป็นนักรบใช่หรือไม่" หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ตอบพระองค์ท่านว่า "เราไม่รู้สิต้องไปถามหลวงพ่อเมือง ท่านมีอตีตังสญาณ" แสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อเกษม ทราบดีว่า หลวงพ่อเมือง ได้สำเร็จในการปฏิบัติธรรมถึงขั้น ทิพย์จักษุฌาน ซึ่งเป็นระดับความสำเร็จของการปฏิบัติกัมมัฏฐานขั้นสูงชั้นหนึ่ง
หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม ได้ละสังขาล ณ วัดท่าแหน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2519 เวลา 21.39 รวมสิริอายุได้ 85 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น